 |
หน้าแรก : เค้าโครงสังเขป : เรื่องย่อภาพยนตร์ : >> คลังเกร็ดสตาร์วอร์ส : แฟนเพจ |
>> คลิกเพื่อ กลับสู่รายการบทความทั้งหมด
ยุทธการสงครามสำคัญ ณ ดวงดาวต่างๆ
อย่างที่พอจะทราบกันว่า ในประวัติศาสตร์ มหากาพย์ Star Wars (ทั้งฉบับภาพยนตร์ การ์ตูน นวนิยาย เกม ฯลฯ) มีสงครามน้อยใหญ่ เกิดขึ้น ณ สมรภูมิบนดาวต่างๆมากมาย ซึ่งเหลือวิสัยที่จะแจกแจงได้ครบถ้วนทั้งหมด แต่ทำความเข้าใจให้ง่ายที่สุดแล้วก็คือ สงครามทั้งหมดนั่น หลักๆจะเป็นสงครามระหว่าง ฝ่ายสาธารณรัฐ อันมีเจไดผู้พิทักษ์ และ ฝ่ายนิยมจักรวรรดิ อันมีซิธลอร์ดเป็นผู้บงการ (ดูรายละเอียดเสริมเพิ่มเติมที่ เจได-ซิธ) ...
ปกติในสงครามใหญ่นั้นจะมียุทธการรบมากกมาย คำว่า ยุทธการ นั้นก็คือชื่อเรียก สงครามย่อยๆ อันเกิดการปะทะกันขึ้น ณ ดวงดาว หรือพื้นที่สมรภูมิรบ ณ ที่ใดที่หนึ่งนั่นเอง โดยบางยุทธการก็เป็นจุดตัดสินแพ้ชนะกันได้เลยทีเดียว... แน่นอนว่ายุทธการที่คุ้นเคยกันมากที่สุดนั่นคือยุทธการต่างๆที่ปรากฏในฉบับภาพยนตร์ 6 ภาคหลัก (ซึ่งแค่ 6 ภาคนี้ก็มีเยอะจนคนดูหนังทั่วไปบางคนดูไม่รู้เรื่อง จึงน่าเสียดายที่กลายเป็นแค่การดูฉากอลังการ ดูเอาสนุกผ่านๆไป)...ในบทความนี้จะมาแจกแจง สังเขปยุทธการสงครามครั้งสำคัญต่างๆ โดยอิงจากที่มีในภาพยนตร์ หรือ Episode 1-6 เป็นหลักเท่านั้น เพื่อเป็นการเสริมความเข้าใจสำหรับแฟนสตาร์วอร์ส ได้เห็นความเชื่อมโยงในภาพรวมได้กระจ่างชัดยิ่งๆขึ้นไป โดยใช้ ยุทธการยาวิน (Battle of Yavin) จาก Episode IV เป็นมาตรฐานจุดอ้างอิงในการกำหนดช่วงเวลา โดยตัวย่อ ก่อนยุทธการยาวิน = BBY, หลังยุทธการยาวิน = ABY
1. Battle Of Naboo (32 BBY) | ยุทธการดาวนาบู (32 ปีก่อนยุทธการยาวิน) --- ใน Episode I The Phantom Menace
เหตุเริ่มจาก สหพันธ์พาณิชย์ (The Trade Fedaration) ที่ถูกบงการลับๆโดยซิธลอร์ดลึกลับ (นาม Darth Sidious) ซึ่งไม่มีใครล่วงรู้มาก่อนว่าเลยว่าเขาเป็นใครมาจากไหน ได้วางแผนส่งยานรบปิดล้อมดาวนาบู วัตถุประสงค์หลักก็เพื่อยั่วยุให้เกิดสงคราม แม้ฝ่ายสหพันธ์พาณิชย์จะมีกองกำลังที่เยอะกว่ามาก แต่กระนั้นกองกำลังรักษาความมั่นคงของ ราชินี อมิดาลา แห่งดาวนาบู ร่วมด้วยอัศวินเจไดได้แก่ ไควกอน จินน์ และลูกศิษย์ โอบีวัน เคโนบี พร้อมทั้งกองทัพพันธมิตร ชาวกันแกน อันเป็นชนเผ่าพื้นเมืองบนดาวนาบูนั่นเอง ได้ร่วมกันต่อต้านกองทัพดรอยด์ลึกลับของสหพันธ์พาณิชย์จนเป็นผลสำเร็จ
ถึงแม้ฝ่ายดาวนาบูจะชนะสงครามครั้งนี้ไปได้ และฝ่ายสหพันธ์พาณิชย์สูญเสียอำนาจไปแล้วก็จริง แต่กระนั้นดาวนาบูก็เสียหายไม่น้อย ทั้งอัศวินเจได ไควกอน ต้องตายไปในระหว่างการสู้กับ ดาร์ธ มอล ซิธลอร์ดลึกลับอีกคนที่เสียชีวิตโดยน้ำมือ โอบีวัน อีกที (ซึ่ง โอบีวัน ก็ตกกระไดพลอยโจรต้องกลายเป็นอาจารย์เจไดของหนูน้อยทาสชาว ทาทูอิน นาม อนาคิน ที่ไควกอนรับมาไปโดยปริยาย) และเหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลจุดชนวนก่อเกิดความวิกฤติความขัดแย้งในสภาสาธารณรัฐอย่างหนักหน่วง ส่งผลให้ผู้นำอย่าง วาโลรัม ถูกโหวตปลดจากตำแหน่งสมุหนายกอันผู้นำสูงสุดแห่งสาธารณรัฐแกแลคซีไป ด้วยข้อหาความล่าช้าขาดประสิทธิภาพในการให้ความช่วยเหลือวิกฤติดาวนาบูครั้งนี้นั่นเอง และวุฒิสามาชิกนาม พัลพาทีน (ซึ่งเป็นชาวนาบูเช่นกัน) ก็ได้รับการโปรโมตให้ได้ให้เป็นสมุหนายกแทนในที่สุด ... แต่นี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้น สงครามที่ใหญ่กว่า! ยังรออยู่ในอนาคต
ตั้งแต่ Episode II-III เรียกยุทธการต่างๆทั้งหมดรวมกันว่าเป็น Clone Wars ... (*ดูภาคผนวกล่างสุด)
2. Battle Of Geonosis (22 BBY) | ยุทธการดาวจีโอโนซิส (22 ปีก่อนยุทธการยาวิน) --- ใน Episode II Attack of the Clones
หลังยุทธการดาวนาบู โอบีวัน ได้สืบพบข้อมูลใหม่ว่าแท้จริงสหพันธ์พาณิชย์มี กลุ่มแบ่งแยกดินแดน (The Separatists) อันแท้จริงแล้วนำโดยอดีตสมาชิกเจไดอาวุโสนาม เคาท์ ดูกู เป็นผู้นำหนุนหลัง ซึ่งบัดนี้เขาได้กลายเป็นซิธลอร์ดไปแล้ว ทั้งยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างกองทัพหุ่นดรอยด์จำนวนมหาศาล ณ ดาวจีโอโนซิส เพื่อเตรียมทำสงคราม นอกจากนี้อีกด้านหนึ่งโอบีวันยังได้พบการสร้าง กองทัพมนุษย์โคลน อย่างลับๆบนดาวคามิโน ซึ่งรายงานจากผู้รับผิดชอบโปรเจคนี้บนดาวคามิโนนั่นว่า ถูกสั่งในนามเจไดของฝ่ายสาธารณรัฐเอง แต่ที่มาที่ไปของโครงการนี้กลับคลุมเครือไม่มีที่มาแน่ชัด ทั้งในสภาเจไดเองก็ไม่เคยมีใครทราบเรื่องนี้มาก่อนเลย แต่แล้วระหว่างนั่น ทั้งเจ้าหญิงอมิดาลา อนาคิน(โตแล้ว) และโอบีวัน เกิดพลาดท่าถูกจับตัวโดย เคาท์ ดูกู ไปขังไว้ที่ดาวจีโอโนซิส สภาสาธารณรัฐแกแลซีและสภาเจได จึงเห็นพ้องกันให้ ส่งกำลังไปที่ดาวจีโอโนซิสเพื่อช่วยเหลือ โดยส่งนักรบอัศวินเจไดไป แต่ระหว่างสู้รบกันนั้นเจไดพลาดท่าถูกล้อมด้วยกองทัพดรอยด์ซึ่งมีจำนวนมหาศาล ฝ่ายสาธารณรัฐจึงต้องเรียกใช้กองทัพโคลนลึกลับนั้นไปช่วยสบทบ และนี้คือการเปิดตัว กองทัพโคลนในสมรภูมิรบจริงเป็นครั้งแรก ผลฝ่ายแบ่งแยกพ่ายแพ้แต่ เคาท์ ดูกู และพวกพ้อง ก็หลบหนีไปได้ในที่สุด
และเนื่องด้วยยังอยู่ในภาวะสงครามตึงเครียด สภาสาธารณรัฐจึงโหวตให้ พัลพาทีน มีอำนาจบังคับบัญชาสูงสุดขั้นเด็ดขาดในการสั่งการ-ควมคุมกองทัพทั้งหมดของสาธารณรัฐ รวมทั้งกองทัพโคลน (โดยไม่มีไต่สวนถึงที่มาให้ชัดเจนแต่อย่างใด ก็เนื่องด้วยยังไงกองทัพนี้ก็เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายสาธารณรัฐอยู่แล้วนั่นเอง) ยุทธการดาวจีโอโนซิสนี้เองที่เป็นฉนวนสำคัญก่อให้เกิดศึกความขัดแย้งแบ่งฝักฝ่ายปะทุกกลายเป็นอีกอภิมหาสงครามแห่งประวัติศาสตร์สตาร์วอร์ส ลุกลามขยายวง ทั่วไปทั้งแกแลคซี ระหว่าง ฝ่ายสาธารณรัฐ กับ ฝ่ายแบ่งแยกดินแดน ที่เรียกว่า สงครามโคลน (Clone Wars) ซึ่งกินเวลายาวนานและสร้างความสูญเสียใหญ่หลวงในเวลาต่อมา
3. Battle Of Coruscant (19 BBY) | ยุทธการดาวคอรัซซังท์ (19 ปีก่อนยุทธการยาวิน) --- ใน Episode III Revenge of the Sith
แท้จริงแล้วยุทธการที่คอรัซซังท์ ก็คือสงครามย่อยๆในสงครามโคลนนั่นเอง จัดเป็นสงครามโคลนช่วงปลายๆใกล้แตกหัก ในภาวะหน้าสิ่วหน้าขวาน เมื่อกองยานของฝ่ายแบ่งแยกดินแดนที่นำโดยเคาท์ ดูกู ได้รุกมาจ่อคอหอยดาวเมืองหลวงของสาธารณรัฐ นั่นคือดาว คอรัซซังท์ ทั้งยังได้จับตัว สมุหนายกพัลพาทีนเป็นตัวประกันได้สำเร็จ โดยถูกกักขังไว้ในยานอันอยู่ภายใต้การควบคุมของนายพลไซบอร์ก (อันเป็นลูกน้องเคาท์ ดูกู อีกที) นามว่า นายพลกรีวัส แต่อัศวินเจไดโอบีว้นและอนาคิน ก็บุกฝ่าเข้าไปช่วยเหลือพัลพาทีนจนรอดมาได้ ทั้งได้ฆ่า เคาท์ ดูกู ได้สำเร็จ กระนั้นสงครามโคลนยังไม่จบ การสู่รบสมรภูมิต่างๆยังคงเนินกระจายไปทั่วแกแลคซี ทั้งฝ่ายแบ่งแยกดินแดนก็ยังมี นายพลกรีวัส ที่หลบนี้ไปได้ ขึ้นเป็นผู้นำแทนเคาท์ ดูกู และซิธลอร์ดลึกลับอันผู้นำสูงสุดที่แท้จริง ที่บงการฝ่ายแบ่งแยกอยู่นั้น จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีใครทราบว่าเขาเป็นใคร ซ่อนตัวอยู่ที่ไหนแน่
4. Battle of Utapau - Battle of Kashyyyk (19 BBY) | ยุทธการดาวยูทาเปา - ยุทธการดาวคาซีค และ ยุทธการดาวต่างๆทั่วแกแลคซีในช่วงสงครามโคลน อันเกิดขึ้นในช่วงเวลาพร้อมๆกัน (19 ปีก่อนยุทธการยาวิน) --- ใน Episode III Revenge of the Sith
- ชื่อดาว "Utapau" มาจากชื่อ "อู่ตะเภา" ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ไทยเรานี่เอง :) -
- The Great Jedi Purge | ปฏิบัติการกวาดล้างเจได
และกระนั้น เกิดเหตุไม่คาดฝัน อนาคิน ซึ่งอยู่ทางคอรัซซังท์ เกิดล่วงรู้ความลับว่าแท้จริงแล้ว พัลพาทีน ก็คือซิธลอร์ดลึกลับ ดาร์ธ ซีเดียส (Darth Sidious) ผู้นำที่แท้จริงของฝ่ายแบ่งแยก ทั้งยังเป็นผู้นำสาธารณรัฐที่ผ่านมาด้วยนั่นเอง จึงแจ้งให้สภาเจไดทราบ และที่พลิกล็อค อนาคินกลับถูก ดาร์ธ ซีเดียส ชักจูงให้เข้าร่วมเป็นซิธอีกคน! สถานะกาณ์ดำเนินมาใกล้สิ้นสุดสงครามโคลน พัลพาทีน จึงถูกเหล่าอัศวินเจไดนำโดย เมซ วินดู ได้ทำการเข้าลอบสังหาร ณ ดาวคอรัซซังท์ แต่พัลพาทีนก็สามารถต่อสู้รอดชีวิตมาได้หวุดหวิด จากการช่วยเหลือของอนาคินที่ตกสู่ด้านมืดนั่นเอง และก็ยังคงเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของฝ่านสาธารณรัฐอย่างถูกต้อง และกองทัพโคลนทั้งหมดก็ยังขึ้นตรงต่อคำสั่งของพัลพาทีนอยู่ พัลพาทีนจึงฉวยโอกาสช่วงชุลมุนนี้ ออกคำสั่ง Order 66 ให้กองทัพโคลนสังหารอัศวินเจไดให้หมด ในโทษฐานที่สภาเจไดทรยศต่อสาธารณรัฐ ทั้งลอบสังหารสมุหนายก และนี้ก็คือ ปฏิบัติการกวาดล้างเจไดครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์สตาร์วอร์ส... The Great Jedi Purge
เป็นอันว่าอัศวินเจไดที่อยู่ระหว่างร่วมรบกันกับกองทัพโคลน ณ สมรภูมิยุทธการสงคราม ณ ดาวต่างๆ ทั่วแกแลคซีนั้น ก็โดนทหารโคลนสังหารเอาดื้อๆโดยไม่ทันตั้งตัว โอบีวัน เองที่ตอนนี้อยู่ที่ดาวยูทาเปานั้น ก็ถูกนายทหารโคลนภายใต้บังคับบัญชาของตนแท้ๆกระหน่ำยิง แต่ก็หนีรอดตายหวุดหวิด ... อ.โยดา ขณะปฏิบัติภารกิจที่ ดาวคาซีค (Battle of Kashyyyk) ก็ถูกทหารโคลนลอบฆ่าเช่นกัน แต่มีสัมผัสพลังรู้ตัวก่อน จึงหนีมาได้
- ฉากดาว Kashyyyk เบื้องหลังเป็นวิวถ่ายทำที่ "อ่าวพังงา" ไทยเรานี้เอง :) โดยบางฉากได้ Mix รวมกับฉากวิว กุ้ยหลิน ของจีนด้วย -
และแล้ว พัลพาทีน หรือ ดาร์ธซีเดียส ก็ได้ประกาศตนเป็นจักรพรรดิปกครองแกแลคซี เปลี่ยนระบอบการปกครองใหม่เป็นระบบเผด็จการจักรวรรดิ พร้อมทั้งให้ อนาคิน และทีมทหารโคลน และกองทัพดรอยด์ทั้งหมด กวาดล้างเจไดที่หลงเหลือให้สิ้นซาก โอบีวัน และ อ.โยดา ตกลงกันจะหลบซ่อนตัวรอโอกาสต่อไป เป็นอันว่า สงครามโคลน จบลงแล้ว งานนี้จึงถือว่าทั้งฝ่ายสาธารณรัฐก็แพ้ ฝ่ายแบ่งแยกก็แพ้ เจไดก็แพ้ เรียกว่าทุกฝ่ายแพ้หมด ผู้ชนะที่แท้จริงก็คือ พัลพาทีน นั่นเอง (*และช่วงเวลาเดียวกันนี้เองที่ เจ้าหญิง อมิดาลา ตรอมใจเสียชีวิต ขณะที่คลอดลูกแฝดสอง หญิง-ชาย อย่างลับๆ)
ตั้งแต่ Episode IV-VI เรียกยุทธการต่างๆทั้งหมดรวมกันว่า Galactic Civil War ... (*ดูภาคผนวกล่างสุด)
5. Battle of Yavin| ยุทธการดาวยาวิน --- ใน Episode IV A New Hope
หลังสงครามโคลน และการกวาดล้างเจไดสำเร็จ พัลพาทีน ซิธลอร์ดดาร์ธซีเดียส ก็เป็นจักรพรรดิอย่างเป็นทางการ ร่วมด้วยสมุนซิธ อนาคิน หรือชื่อใหม่ ดาร์ธเวเดอร์ ได้ปกครองทั่วแกแลคซีอย่างเบ็ดเสร็จ เปลี่ยนการปกครองจากระบอบสาธารณรัฐแกแลซี ไปเป็น จักรวรรดิแกแลคซี (Galactic Empire) ส่วนกองทัพโคลนถูกแปรสภาพให้เป็น กองทัพแห่งจักรวรรดิ หรือ สตอร์มทรูปเปอร์ แทน แต่ถึงจะมีอำนาจเบ็ดเสร็จล้นฟ้าแล้ว ก็ยังมีกลุ่มสมาชิกจากดาวต่างๆที่ไม่เห็นด้วย จึงได้รวมตัวกันก่อตั้งกองกำลังต่อต้านจักรวรรดิ ที่เรียกว่า กองกำลังฟื้นฟูระบอบสาธารณรัฐ (Alliance to Restore the Republic) หรือถูกเรียกจากฝ่ายดาร์ธซีเดียสว่าเป็นพวกกบฏจึงเรียกในอีกชื่อว่า พันธมิตรฝ่ายกบฏ (Rebel Alliance) อันนำโดย เจไดความหวังสุดท้ายนามว่า ลุค สกายวอร์คเกอร์ กับ เจ้าหญิงเลอา (ซึ่งสองคนนี้แท้จริงไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นทายาทลูกแฝดของ ดาร์ธ เวเดอร์ นั่นเอง) พร้อมทั้งสหายพันธมิตรที่พบกันโดยบังเอิญนาม ฮัน โซโล เข้าร่วมช่วยกอบกู้ด้วยอีกคน
ยุทธการยาวิน (Battle of Yavin) ก็คือ กองทัพยาน X-Wing จากฐานกองทัพของฝ่ายกบฏหน่วยหนึ่ง บนดาวยาวิน 4 ได้ปฏิบัติการโจมตี Death Star อันเป็นอาวุธพิฆาตชนิดใหม่ของฝ่ายจักรวรรดิได้สำเร็จในภาคภาพยนตร์ Star wars Episode 4 : A New Hope (ปฐมบทของจักรวาลสตาร์วอร์ส ซึ่งปรากฎสู่สายตาชาวโลกเป็นครั้งแรกสุด(ในปี ค.ศ. 1977 หรือ พ.ศ.2520) และถึงแม้ยุทธการยาวินไม่ใช่การโค่นล้มฝ่ายจักรวรรดิได้สำเร็จเด็ดขาด แต่ก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นจุดพลิกผันที่สำคัญที่ทำให้ฝ่ายจักรวรรดิเสียรังวัดไปเยอะทีเดียว และก็เป็นปฏิบัติครั้งแรกที่ฝ่ายกบฏสามารถทำลายอาวุธมหาประลัยขนาดมหึมาอย่าง Darth Star ได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
6. Battle Of Hoth (3 ABY) | ยุทธการดาวโฮธ (3 ปี หลังยุทธการยาวิน) --- ใน Episode V The Empire Strikes Back
หลังจากโจมตีทำลาย Death Star ของฝ่ายจักรวรรดิแกแลคซีเมื่อครั้งยุทธการยาวิน พันธมิตรฝ่ายกบฏก็ได้มากบดานตั้งฐานทัพลับใหม่ที่ดาวหิมะน้ำแข็ง โฮธ แต่ฝ่ายจักรวรรดินำโดยดาร์ธเวเดอร์ ก็สืบหาจนเจอและทำการโจมตีไล่ล่าทันที หมายกำจัดให้สิ้นซากให้จงได้ การต่อสู้เป็นไปดุเดือดแต่ด้วยกองกำลังและอาวุธที่น้อยกว่ามากฝ่ายกบฏจึงไม่สามารถต้านทานได้ ก็ได้แต่ป้องกันตัว และท้ายที่สุดก็แตกพ่าย จึงแยกย้ายกันหลบหนีไป กระจายตัวไปทั่วแกแลคซีคนละทิศคนละทาง ซุ่มรอวันรวมตัวลุกขึ้นสู้ต่อไป
... ลุค สกายวอร์คเกอร์ ได้แยกตัวออกไปตามหาปรมาจารย์เจได โยดา ที่อยู่บนดาวเดโกบ้า (Dagobah) เพื่อฝึกวิชาเจไดเพิ่มเติม ตามที่ โอบีวัน เคยแนะนำไว้ ... ส่วน ฮัน โซโล ต้องพาเจ้าหญิงเลอา หนีการไล่ล่าจาก ยาน Star Destroyer ของฝ่ายจักรวรรดิ แต่บังเอิญดันเกิดความเสียหายกับ ยานมิลเลเนียม ฟอลคอน ทำให้ไม่สามารถใช้ Hyper Space (อุปกรณ์เร่งความเร็วสู่ความเร็วแสง)ได้ จึงไปพักซ่อมยานที่ ดาวแห่งหมู่เมฆ (Cloud City) โดยหารู้ไม่ว่าที่นี่ได้ถูกดาร์ธเวเดอร์ควบคุมไว้เรียบร้อยแล้ว สุดท้ายดาร์ธเวเดอร์ได้จับ ฮัน แช่แข็งในคาร์บอนไนต์ แต่ ลุค ก็ช่วยออกมาได้ในเวลาต่อมา
7. Battle Of Endor (4 ABY) | ยุทธการดาวดวงจันทร์เอนดอร์ (4 ปี หลังยุทธการยาวิน) --- ใน Episode VI Return of the Jedi
เป็นยุทธการแตกหัก เมื่อฝ่ายจักรวรรดิสร้าง Death Star ขึ้นมาใหม่อีกดวง ที่มีพลานุภาพร้ายแรงกว่าเดิม กองกำลังฝ่ายกบฏก็ล่วงรู้ จึงต้องหาทางทำลายให้จงได้ ก่อนที่มันจะสร้างสำเร็จ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เนื่องจาก Death Star ดวงใหม่นี้ มีตัวสร้างรังสีเกราะป้องกันพิเศษ ซึ่งถูกฝ่ายกบฏก็สืบรู้ความลับในภายหลังว่า เกราะรังสีนี้เกิดขึ้นโดยเชื่อมโยงกับเครื่องสร้างเกราะอันมีฐานลับบนดวงจันทร์เอนดอร์ และแล้วฝ่ายกบฏนำโดย ฮันโซโล และ เจ้าหญิงเลอา ก็ร่วมกันมุ่งสู่หน้าดาวเอนดอร์ ทั้งโชคดีที่ได้พันธมิตรอย่างชนพื้นเมืองบนดาวเอนดอร์ นั่นคือ เผ่า Ewok เข้าร่วมช่วยสู้ศึกนี้ด้วย เกิดการปะทะกับกับกองลังฝ่ายจักรวรรดิอย่างดุเดือด
สุดท้ายกองกำลังฝ่ายกบฏก็ทำลายฐานเครื่องสร้างเกราะได้ พร้อมกันนั้นกองกำลังอีกทีมก็เข้าโจมตีทำลาย Death Star ใหม่ ดังกล่าวได้สำเร็จ ฝ่ายจักรวรรดิจึงเพลี่ยงพล้ำสาหัส และสถานะการณ์มาจนถึงจุดแตกหัก เมื่อ ดาร์ธ เวเดอร์ เปลี่ยนใจทรยศต่อจักรพรรดิพัลพาทีนนายตัวเอง โดยจับพัลพาทีนโยนทิ้งนอกอวกาศ เนื่องจากทนเห็นการถูกทรมานของ ลุค สกายวอร์คเกอร์ จากการโดนยิงแสงซิธสายฟ้าไม่ได้ ด้วยรู้อยู่แก่ใจว่า ลุค เป็นลูกตนนั่นเอง แต่ ดาร์ธ เวเดอร์ เองก็สิ้นชีพไปด้วยในเวลาต่อมา ก็ด้วยฤทธิ์ของแสงสายฟ้าที่ตนเองต้องรับไปด้วยขณะพยายามช่วยลุค
เป็นอันว่าคำทำนายโบราณของนิกายเจไดได้เป็นจริง... ดาร์ธเวเดอร์ หรือ อนาคิน ผู้ถูกเลือก ได้นำสมดุลกลับคืนสู่พลัง...
ส่วนฝ่ายกบฎก็สามารถโค่นล้มฝ่ายจักรวรรดิได้สำเร็จ จึงได้เฉลิมฉลองชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ที่สามารถนำความสงบสุขกลับคืนสู่จักรวาลได้อีกครั้ง ณ ดาวเอนดอร์นี้เอง พร้อมทั้งมีการฉลองของดาวพันธมิตรต่างๆทั่วแกแลคซี
ปล. ผลจาก Battle Of Endor ใน Episode VI ส่งผลให้สงครามสงบก็จริง แต่สงครามสตาร์วอร์สยังคงเกิดขึ้นใหม่และดำเนินต่อไปอีกในอนาคต
ซึ่งแฟนบอยสตาร์วอร์สย่อมได้รู้กันไปบ้างแล้วจากภาคการ์ตูนComic และภาคนวนิยาย (*เกิดอะไรต่อในอนาคตดูที่ สงครามยุค Legacy หรือ ดูใน เค้าโครงสังเขป ) ส่วนภาคภาพยนตร์นั้น คงได้เห็นกันอีกครั้ง ในภาค Episode VII (2015) ที่กำลังดำเนินการถ่ายทำอยู่ขณะนี้ และก็ต่อด้วย Episode VIII - Episode IX ในอนาคตต่อไป...
* ภาพผนวก การแบ่งช่วง มหาสงครามหลักๆ ในจักรวาลสตาร์วอร์ส จัดตามลำดับเวลา ดังนี้ 1. "Great Hyperspace War" [ช่วง 5,000 BBY] (ยุคของซิธลอร์ด "Marka Ragnos"...ฯลฯ) : Jedi-Galactic Republic ปะทะ The Sith Empire - สงครามใหญ่ 6 ครั้งข้างต้นทั้งหมด เรียกรวมกันว่าเป็น สงครามยุค "The Old Republic " เป็นเรื่องราวก่อนภาพยนตร์นั่นเอง - 7.
ส่วนมหาสงครามตั้งแต่ยุคภาคภาพยนตร์ เป็นต้นไป อาทิ มหาสงคราม Clone Wars (ภาพยนตร์ episode 1-3 ยุคของซิธลอร์ด "Darth Sidious"(พัลพาทีน), "Darth Mual", "Darth Tyranus"(เคาท์ ดูกู), และ "Darth Vader" (อนาคิน สกายวอร์คเกอร์)...ฯลฯ เรียกว่าสงครามช่วงนี้ว่า ยุค Rise of the Empire [1,000–0 BBY ] ต่อเนื่องไปสู่ --> Galactic Civil War (ในภาพยนตร์ episode 4-6) เรียกว่าสงครามช่วงนี้ว่า ยุค The Rebellion [0–5 ABY ] |
