สภาเจไดได้ขอให้ Master Gnost-Dural ทำการค้นคว้าบันทึกประวัติศาสตร์ของ jedi order ในช่วงที่ sith empire กลับมาเรืองอำนาจอีกครั้ง โดยเฉพาะในเรื่องที่เกียวกับความขัดแย้งระหว่าง republic กับ empire เพื่อหาต้นตอของความขัดแย้งที่กำลังบ่อนทำลายฝ่าย republic อยู่

- Master Gnost-Dura (สปีชีส์เดียวกับท่านเจได plo koon ในภาคภาพยนตร์ episode 1-3) -

'Treaty of coruscant' สนธิสัญญาสงบศึกระหว่าง sith กับ republic

300 ปี หลังจากจบสงคราม jedi civil war และการตายของ Darth Malak ( ในเกม Knight of the old republic ภาคแรก ) จักรวรรดิซิธจากห้วงอวกาศลึก (ตามสคริปคือ true sith empire ใช่แล้วครับ ซิธรุ่นก่อนหน้านี้ อย่างพวก Exar Kun , Revan หรือ Malak เป็นจักรวรรดิซิธที่แยกออกมาต่างหากจาก true sith empire อันนี้ จะมีบอกใน timeline ตัวต่อๆไป) ได้เปิดฉากสงครามขึ้นอีกครั้ง สงครามครั้งนี้กินเวลากว่าทศวรรษ ซิธและเจไดนับพันต้องตายไป ระบบดาวอีกนับไม่ถ้วนถูกทำลาย

- เกม Star Wars Knighst of the Old Republic อันเป็นยุคช่วงเวลาก่อนหน้า เกม The Old Republic นั่นเอง ... Raven (ผ้าคลุม) และ Malak (หัวโล้น) -


- Trailer เกม The Old Republic ชุด "Hope" : หนึ่งตัวอย่างบรรยากาศมรภูมิอันดุเดือด ระหว่าง Sith empire และ Republic ซิธโจมตีสาธารณรัฐบนดาว "Alderaan" ทหารสาธารณรัฐต้านศึกหนัก... Darth Malgus ได้ปะทะเดือดกับ เจไดหญิงในตำนาน "Satele Shan" ... ผลต่างก็สูญเสียยับเยินทั้งสองฝ่าย แต่ก็สร้างความหวัง ต่อฝ่าย Republic เป็นอย่างมาก เมื่อสามารถต่อต้านศึกครั้งนี้ต่อพวก Empire มาได้อย่างหวุดหวิด -

ถึงแม้ว่า sith empire จะยึดครองจักรวาลไปกว่าครึ่ง แต่ฝ่าย sith ก็สร้างความประหลาดใจให้กับ republic ด้วยการยื่นข้อเสนอที่ยากจะปฏิเสธ – สัญญาสงบศึก – (ตรงจุดนี้มีเฉลยว่าทำไม sith ถึงทำแบบนี้ ใน flashpoint ของเกม the old republic )สภาเจไดเรียกร้องให้วุฒิสภาพิจารณาข้อเสนอนี้อย่างระมัดระวัง แต่ถึงกระนั้นฝ่ายเจไดเองก็ยอมรับว่า สงครามนี้ไม่อาจจะเอาชนะฝ่ายซิธได้ และสัญญาสงบศึกนี้เป็นหนทางรอดเดียวที่เหลืออยู่

ในที่สุดฝ่าย republic และ sith empire ได้หารือข้อเสนอสันติภาพกันที่ดาว Alderaan แต่ฝ่ายซิธยังมีไพ่ตายในมือที่ยังไม่ได้ทิ้งลงมา โดยระหว่างที่กำลังเจรจาสงบศึก กองยานซิธได้เปิดฉากโจมตีดาว coruscunt (คือเหตุการณ์ trailer ตัวแรกชุด "deceived" ของเกม the old republic ที่วิหารเจไดโดนถล่มนั่นเอง) และยึดดาวทั้งดวงไว้เป็นตัวประกัน ทำให้ทูตของ republic ไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับข้อเสนอที่เสียเปรียบในการสงบศึก

- คลิป trailer deceived , และบรรกาศเหตุการณ์ศึกช่วงท้ายๆก่อนเกิด Treaty of coruscant ในเวลาต่อมา : ฝ่าย Empire นำโดย ซิธลอร์ดในตำนาน นาม "Darth Malgus" นำทัพซิธโจมตีวิหารเจได แบบเหนือความคาดหมาย วิหารเจไดเสียหายยับเยิน / ร่วมด้วยศิษย์ซิธหญิงของ Malgus เอง นาม "Eleena Daru" (สปีชีส์ Twi'leks อันมีผมเป็นหางยาว)...ผนวกกับ นักล่าเงินรางวัล(Bounty Hunter)นักรบ Mandalorian สาวนาม "Shae Vizla" : ส่วนฝ่าย Republic/เจได นำโดยเจได "Ven Zallow" -

หลังจากฝ่าย republic สงบศึกและถอนกำลังกลับ ทำให้ดาวที่ถูกทิ้งต้องสู้ปกป้องตัวเองและในที่สุดก็ถูกซิธยึดครอง

ฝ่ายเจไดเองหลังจากถอนกำลังกลับมาก็พบแค่เศษซากของวิหารเจไดเดิม แถมถูกวุฒิสภากล่าวหาว่าเป็นต้นตอของความขัดแย้งทั้งหมดที่เกิดขึ้น สุดท้ายเจไดจึงสร้างวิหารใหม่ที่ดาว typhon ฝ่าย republic และ sith empire ก็ค่อยๆฟื้นฟูกำลังรบ ทำให้เกิดเป็นสงครามเย็นระหว่าง 2 ฝ่าย

ซึ่ง master Gnost-Dural บอกว่า ไม่ว่ายังไงผลลัพธ์ของสงครามก็ต้องจบลงแบบนี้ แต่จะศึกครั้งนี้อาจจะจบเร็วกว่านี้ถ้าฝ่าย republic ไม่ได้พันธมิตรที่ไม่คาดคิดที่มาช่วยจัดการฝ่าย mandalorian ที่ปิดเส้นทางขนส่งหลัก (hydrian trade route) ซึ่งจะเล่าในตอนต่อไป

* จากตอนที่ 1 ที่เล่าถึงที่มาของสัญญาสงบสงบศึก ตอนที่ 2 จะเล่าย้อนถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น เป็นช่วงที่กองยาน mandalorian ปิดกั้นเส้นทางขนส่งและถูกโจมตีจากเหล่านักขนของเถื่อน(smuggler)* ... (*เสริมเพิ่มเติมเกี่ยวกับพวก mandalorian คลิกที่นี่ )

- รูปซ้าย นักรบ mandalorian / ขวา เธอคือ 'Hylo Visz' นักขนของเถื่อนคนสำคัญของเหตุการณ์ช่วงนี้ -

หลังจากเหตุการณ์การโจมตีดาว coruscant ของฝ่าย empire เหล่าเจไดยอมรับว่า republic เป็นฝ่ายพ่ายให้กับกลยุทธ์การศึกอันยอดเยี่ยมของฝ่าย empire แต่จากที่ master Gnost-dural ทำการค้นคว้าลึกลงไปก็พบว่า การโจมตีดาว coruscant เป็นการเสี่ยงดวงครั้งใหญ่ของ empire หลังจากแผนการอื่นๆล้มเหลว และไม่ใช่แผนที่วางไว้แต่ต้น ซึ่งฝ่าย empire หันมาใช้แผนนี้หลังจากการปิดกั้นเส้นทางขนส่งของกองยาน mandalorian ถูกทำลายโดยเหล่านักขนของเถื่อน

ช่วงแรกที่ฝ่าย empire เปิดฉากสงคราม กลุ่มดาวในเขต outer rim(ดาวรอบนอกชายของแกแลคซี) ถูกยึดครอง supply ต่างๆที่เคยขนส่งมายังกลุ่มดาวใน core world(ศูนย์กลางแกแลคซี) ก็ถูกตัดขาด ร่วมกับตอนหลังถูกกองยาน mandalorian ปิดกั้นเส้นทางอีก จนทำให้เกิดการขาดแคลนสินค้าอย่างหนัก เกิดเป็นการจลาจล ถึงขั้นที่สภาหารือกันว่าจะยอมจำนนต่อ empire

เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ฝ่าย republic ยินดีที่จะจ่ายเงินอย่างงามให้กับสินค้าที่สามารถมาถึง core world ได้ หนึ่งในกลุ่มนักขนของเถื่อนอย่าง Hylo Visz ก็คิดแผนง่ายๆที่จะทำกำไรให้เธออย่างมหาศาล – ถล่มกองยาน mandalorain ซะ –

กองยานขนสินค้าของ Hylo Visz ที่ขนสินค้าจาก outer rim มาเต็มยาน เดินทางมาถึงจุดที่มีการปิดกั้น และจอดนิ่งสนิท สร้างความสงสัยให้กับกองยาน mandalorian อย่างมาก แต่ไม่ทันไรกองยาน cruiser ของ mandalorian ก็ถูกโจมตีจากยานขนาดเล็กของ Hylo Visz ร่วมกับกองยานของ republic ที่จับสัญญาณการสู้รบได้และส่งกำลังมาเสริม ทำให้การปิดกั้นเส้นทางขนส่งถูกทำลายลง

Republic ได้สินค้าตามที่ต้องการ Hylo Visz ก็ทำกำไรอย่างงดงามเช่นกัน ( republic จะมอบเหรียญกล้าหาญให้แก่ Hylo แต่เจ้าตัวไม่ได้มา) มีข่าวลือว่า Hylo ถูกฆ่าตายหลังจากนั้นไม่กี่ปี เพราะไปมีเรื่องกับพวก Hutt

Master Gnost-Dural เชื่อว่าฝ่าย empire อยู่เบื้องหลังการปิดกั้นเส้นทางของกองยาน mandalorain ซึ่งจะอธิบายในตอนต่อไป

*ตอนที่ 2 เล่าถึงการทำลายการปิดกั้นของกองยาน mandalorian ในตอนที่ 3 จะเล่าถึงที่มาของชาว mandalorian จนถึงการยกทัพมาปิดกั้นเส้นทางขนส่งของ republic*

- นักรบ mandalorian -

ชาว mandalorian ถูกฝึกให้ต่อสู้มาตั้งแต่เกิด ชนเผ่านักรบกลุ่มนี้สู้รบกับฝ่ายเจไดมาช้านาน ชาว mandalorian เชิดชูการสู้รบและความแข็งแกร่ง แต่พวกเขาก็แตกต่างจากพวก sith ที่นิยมความรุนแรงเหมือนกัน

ชาว mandalorian เชื่อว่าการต่อสู้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเติบโตเป็นผู้ใหญ่เท่าๆกับความเจริญก้าวหน้าในวงสังคม สงครามคือวิถีชีวิตของพวกเขา ร่วมกับความกระหายที่จะเอาชนะ ทำให้พวกเขาเป็นตัวอันตรายอย่างยิ่ง แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังถือเกียรติศักดิ์ศรีอยู่ และการที่ mandalorian เป็นพันธมิตรกับ empire ก็สร้างความเสียหายให้ republic อย่างมาก

- เผ่านักรบแมนดาลอเรี่ยน กับชุดเกราะอันเป็นเอกเลักษณ์ -

หลังจาก empire เปิดศึกมาได้ระยะหนึ่ง ฝ่ายเจไดก็สามารถที่จะหยุดการรุกคืบของ empire ไว้ได้ที่เขต mid rim ช่วงเวลานั้นเองที่ดาว geonosis มีนักสู้คนหนึ่งแจ้งเกิด เขาเรียกตัวเองว่า mandalore ชื่อของตำแหน่งผู้นำของชาว mandalorian ที่มีแต่นักรบที่คู่ควรเท่านั้นที่จะสามารถได้ตำแหน่งนี้มา

ถึงแม้ว่าชาว mandalorian จะกระจัดกระจาย เป็นทหารรับจ้างบ้าง นักล่าค่าหัวบ้าง แต่เมื่อ mandalore เรียกระดมพล พวกเขาก็พร้อมจะตอบรับทันที โดยศัตรูของชาว mandalorian คราวนี้ก็คือพวกเจได

Mandalore ระดมพลเพียงชั่วข้ามคืนก็สามารถยกกองยานไปปิดกั้น hydrian trade route ได้ ทำให้ฝ่าย republic ขาดแคลนสินค้าอย่างหนัก เหล่าเจไดรับคำท้ารบจาก mandalorian และเปิดฉากโจมตี แต่ก็ถูกทำลายลงจนหมดสิ้น (หลังจากนั้น mandalorian ก็ถูกกองยานของ Hylo ถล่มดังที่ได้เกริ่นในตอนที่ 2 )

ปริศนาของการผงาดขึ้นอีกครั้งของ mandalorian และ mandalore จะอธิบายในตอนต่อไป

*ตอนที่ 3 เล่าถึงที่มาของการเปิดศึกกับ republic ของชาว mandalorian ตอนที่ 4 จะเล่าถึงที่มาของการเป็นพันธมิตรกันระหว่าง sith และ mandalorian*

- พันธมิตร sith empire และ mandalorian เปิดศึกโจมตี republic -

กองทัพพันธมิตรระหว่าง sith และ mandalorian เป็นหมัดน็อคสำหรับ republic ที่กำลังเพลี่ยงพล้ำในศึกช่วงท้าย ซึ่งการผงาดขึ้นมาอีกครั้งของ mandalorian ก็เป็นแผนการอีกขั้นหนึ่งของ sith emperor ซึ่งดำเนินแผนการโดยหน่วยสายลับของ empire มีข้อมูลน้อยมากเกี่ยวกับองค์กรในเงามืดนี้ แต่เป็นที่รู้แน่ว่าองค์กรนี้อันตรายไม่น้อยไปกว่าพวก sith เลย

ในช่วงสงคราม องค์กรอาชญากรรมต่างก็หารือกันว่าจะเลือกหนุนฝั่ง empire หรือ republic ดี พวก hutt ที่ไม่ได้สนับสนุนฝั่ง empire ก็ถูกหน่วยสายลับพยายามขัดขวางไม่ให้ republic ได้รับการสนับสนุนจาก hutt

Mandalorian ก็ประสบเหตุการ์คล้ายๆกัน บางคนเลือกที่จะอยู่ฝั่ง empire แต่ส่วนใหญ่เลือกที่จะไม่เลือกข้างใด ฝ่าย empire ซึ่งพยายามจะให้ mandalorian เข้ามาเป็นพวกให้ได้ก็พยายามซื้อตัวแต่ก็ถูกปฏิเสธ ทำให้ต้องเปลี่ยนแผนในที่สุด

จากข้อมูลที่มีพบว่า เหล่า mandalorian มักจะต่อสู้กันในสนามประลองเพื่อเงินและชื่อเสียง หน่วยสายลับจึงใช้ข้อได้เปรียบนี้ในการแทรกซึมเข้าไปในฐานะสปอนเซอร์หรือแม้กระทั่งฐานะตัวนักสู้เอง

ด้วยความช่วยเหลือของสายลับ นักสู้ชาว mandalorian คนหนึ่งได้สร้างผลงานการต่อสู้ที่โดดเด่นขึ้นจนน่าประหลาดใจ เหล่าสายลับใช้ทุกวิธีการในการทำให้คู่ต่อสู้ของนักสู้คนนั้นหมดฤทธิ์ก่อนจะขึ้นสังเวียน เสียงเชียร์กึกก้องดังทั่วสนามประลองว่า Mandalore! Mandalore! ชื่อของตำแหน่งนักรบผู้ยิ่งใหญ่ ชื่อเสียงของนักสู้หนุ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆจนสามารถเคลมตำแหน่ง mandalore ได้ในที่สุด และตัว mandalore เองก็รับใช้ sith อย่างลับๆ

ถึงแม้ว่าการปิดกั้นเส้นทางขนส่งจะถูกทำลายลง แต่แผนการโจมตี coruscant และสัญญาสงบศึกที่ republic เสียเปรียบก็ถูกดำเนินการต่อ พันธมิตรระหว่าง sith และ mandalorian คงไม่ยั่งยืนถึงปัจจุบันถ้าไม่ใช่ผลงานการปกปิดหลักฐานการเกิดของ mandalore คนใหม่ของหน่วยสายลับของ empire

หลังจากนั้นไม่นาน Mandalore ก็ถูกสังหาร และผู้สังหารเขาขึ้นครองตำแหน่ง Mandalore คนใหม่ เราไม่รู้ว่า mandalore คนใหม่นี้เป็นหุ่นเชิดของ empire อีกหรือไม่ ทำให้ republic ต้องจับตาดูเขาอย่างใกล้ชิด

ความสำเร็จในการชักจูงชาว Mandalorian เข้าสู้สงครามของหน่วยสายลับ empire เป็นการแก้เกมหลังจากที่ฝ่าย republic ทำให้ empire ต้องเสียหายอย่างหนักในการศึกที่ mid rim โดยจะกล่าวในตอนต่อไป

*ตอนที่ 4 เล่าถึงการปรับเปลี่ยนแผนการของฝั่ง empire หลังจากเสียหายอย่างหนักในการรบที่ mid rim ตอนที่ 5 จะเล่าถึงการศึกที่ mid rim ของฝั่ง republic ที่ต้านทานกองทัพ empire ไว้*

- Master Belth Allusis อัศวินเจได นำทัพสู้ศึกสมรภูมิดาว Bothawui -

แผนการทำลายล้าง republic ของ sith emperor ในตอนแรกนั้นไม่ได้มีแผนว่าจะต้องมีกองทัพพันธมิตรคอยช่วยรบ เพราะมั่นใจในแผนการและความเข้มแข็งของกองทัพ แต่ sith emperor มองข้ามความกล้าหาญและเสียสละของเหล่าทหาร republic ที่พร้อมจะสู้ตาย

หลังจากจบศึกที่ seswenna sector ที่เขต outer rim กองยาน empire ก็รุกคืบเข้าสู่เขต mid rim กองยาน empire บุกเข้าไปในเขตดาว Bothawui และเจอกับกองทัพของ republic จนถูกทำลายลงหมดสิ้น เป็นชัยชนะครั้งแรกของ republic ในศึกครั้งนี้ สร้างขวัญกำลังใจให้แก่ทหารที่พ่ายศึมาอย่างต่อเนื่องในช่วงแรกอย่างมาก

กองยานของ republic ถอนกำลังจากไป คงเหลือไว้แต่เจไดกลุ่มหนึ่งและเหล่าที่ทหารที่เฝ้าระวังการกลับมาของ empire ที่ดาว Bothawui ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานกองยาน empire ก็กลับมาพร้อมกำลังที่มากกว่าพร้อมที่จะล้างแค้น

เครื่องสร้างเกราะพลังงานบนดาว Bothawui ทีป้องกันดาวนี้จากการยิงถล่มของ empire บีบบังคับให้ empire ต้องส่งกองทัพกว่า 5 หมื่นนายลงมาเพื่อทำลายมัน โดยที่ฝ่าย republic มีเพียง master Belth Allusis อัศวินเจได 84 คน และทหารอีก 4 พันนาย

เหล่านายพลของ empire ที่มั่นใจในกองทัพของตนก็ได้สั่งโจมตีด้านหน้าตรงๆ ปะทะกับฝ่าย republic ต่อสู้อย่างไม่คิดชีวิต เหล่าทหาร empire 10 คน ต้องแลกชีวิตกับทหาร republic เพียง 1 คน จนในที่สุดฝ่าย empire ต้องเรียกกำลังเสริม

ถึงแม้ว่าฝ่าย republic จะป้องกันอย่างสุดชีวิตแค่ไหน แนวป้องกันก็ถูกตีแตก กองกำลังเหลือเพียบหยิบมือ จนต้องถอยร่นมาที่แนวป้องกันสุดท้าย ในที่สุด Grand Moff Zellos ได้ยื่นข้อเสนอไว้ชีวิตให้กับฝ่าย republic ถ้าพวกเขายอมจำนน แต่พวกเขาก็ปฏิเสธข้อเสนอนี้และสู้จนตัวตาย

ศึกที่ดาว Bothawui ถือว่าเสมอกัน เหล่าทหารที่ Bothawui สามารถยันกองทัพ empire ที่เขต mid rim ไว้ได้จนทำให้ต้องเปลี่ยนแผนการรบในที่สุด

แต่เมื่อมองย้อนกลับไป ฝ่าย republic สูญเสียพื้นที่ให้แก่ empire เป็นจำนวนมากในช่วงแรกของสงคราม ซึ่งเกิดจากแผนการอันไร้ที่ติของ sith emperor ฝ่าย republic ทำได้แค่สู้เพื่อเอาชีวิตรอดท่านั้น
Master Gnost-Dural พยายามประติดประต่อแผนการของ sith emperor ในช่วงแรก โดยจะอธิบายในตอนต่อไป

*ตอนที่ 5 เล่าถึงการศึกที่เขต mid rim ที่ทำให้แผนการของ sith emperor ต้องสะดุด ในตอนที่ 6 จะเล่าถึงการรบในช่วงแรกของสงคราม Great war ในช่วงที่แผนการของ sith emperor ยังไร้ที่ติ*

- เจไดหารือรับศึกจาก Sith Empire -

การเปิดศึกของฝ่าย empire ในครั้งนี้ไม่เหมือนกันที่เคยเกิดขึ้นในสงครามครั้งก่อนๆที่ฝ่าย republic เคยเจอ กองทัพ empire บุกโดยไม่สามารถคาดเดาตำแหน่งได้และมีจำนวนมหาศาล สร้างความตื่นตระหนกให้กับฝ่าย republic อย่างมาก ซึ่งนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนการของ sith emperor

ยานรบของ empire ปรากฏตัวครั้งแรกที่เขต tingel arm region ฝ่าย republic ส่งยานทูตออกไปโดยไม่รู้ว่าจะต้องพบกับอะไร sith emperor ต้องการให้ republic ได้เจอกับแสนยานุภาพของกองยาน empire ยานทูตของ republic ทำได้แค่ส่งภาพกองยาน empire กลับไปก่อนที่จะถูกทำลายลง หลังจากนั้นไม่นานกองทัพ empire ได้เปิดฉากบุกเขต Aparo sector ก่อนที่ฝ่าย republic จะทันตั้งตัว

ฝ่าย empire ได้ตั้งรัฐบาลหุ่นเชิดขึ้นที่ Belkadan , Sernpidal และ Ruuria กองยานของ republic ที่ประจำอยู่ในเขตนั้นพบว่าตัวเองอยู่กลางวงล้อมข้าศึก ทำให้ต้องเสริมกำลังโดยดึงยานรบจากทุกส่วนเข้าช่วยเหลือ ทำให้ดาว Korriban(homeworld ของเหล่า sith) เหลือยานป้องกันแค่หยิบมือ จนถูกโจมตีชิงคืนไปได้ (เหตุการณ์ใน trailer return ) ทำให้กองยาน republic ที่ถูกล้อมอยู่ต้องกระจายตัวเพื่อหนีเอาตัวรอด

- คลิป trailer return : ฝ่าย Empire ภายใต้การนำของซิธลอร์ด "Darth Malgus"(หัวโล้น) และอาจารย์ของเขา "Darth Vindican"(ผิวหนังสีแดง เป็นสปีชี่ส์ ซิธ พันธุ์แท้ หรือ "Sith Pureblood") : ส่วนฝ่าย Republic นำโดย เจได "Darach"(สปีชี่ส์ Zabrak หน้ามีลวดลาย+มีเขาสั้นบนหัว)...และเจไดหญิง "Satele Shan"(ลูกศิษย์ Darach) ...ร่วมด้วยกับกองทัพทหารสาธารณรัฐ หรือ "Republic Trooper"โดยมี "Jace Malcom" เป็นผู้บังคับบัญชา(Republic Trooper Commander) สมทบกับนักค้าของเถื่อน(Smuggler) นาม "Nico Okarr" -

ในเขต outer rim ฝ่าย empire โจมตีท่าจอดยานในเขต Sluis sector ปิดกั้นเส้นทางขนส่งสินค้าที่ rimma trade route และยึดครอง minos cluster ที่อุดมไปด้วยทรัพยากร

กองทัพ republic ที่แตกระส่ำระสายไม่สามารถตอบโต้ฝ่าย empire ได้เลย วุฒิสภาและสภาเจไดได้นัดหารือเกี่ยวกับแผนการศึก แต่สุดท้ายก็จบลงที่การเล่นเกมการเมืองภายในของฝ่าย republic เอง วุฒิสมาชิกจากหลายดาวไม่พอใจการตัดสินใจของสภาที่จะปล่อยให้ดาวของพวกเขาไร้การป้องกัน ทูตของดาวต่างๆใน republic ปฏิเสธที่จะส่งกองทัพเข้าร่วมศึก ทำให้แต่ละดาวต้องป้องกันตัวเอง และนี่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการของ sith emperor ที่ทำให้ republic แตกคอกันเอง

ในขณะที่กองทัพ empire รุกคืบเข้ามาในเขต core world ฝ่าย republic อาจจะพ่ายแพ้ได้หากเหล่าทหารและเจไดรอคอยคำสั่งจากสภา แต่พวกเขาเลือกที่จะทำตามการตัดสินใจของตัวเอง และสู้รบจนหยุดการรุกของ empire ไว้ที่เขต mid rim ในที่สุด

การเปิดฉากโจมตีของ empire ในครั้งนี้เป็นการศึกที่เตรียมการมาอย่างดีและมีแผนการที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์การศึก มีหลักฐานบ่งชี้ว่าศึกครั้งนี้มีการวางแผนเตรียมการมานานนับศตวรรษ โดยจะอธิบายในตอนต่อไป

*ตอนที่ 6 เล่าถึงแผนการโจมตีของฝ่าย empire ที่เตรียมการมานานนับศตวรรษ ในตอนที่ 7 จะเล่าถึงส่วนนึงของแผนการกรุยทางไปสู่การบุกโจมตี republic ที่เกิดขึ้นหลายร้อยปีก่อนหน้านั้น*

- master Barel Ovair และพาดาวัน Eison Gynt (สปีชีส์ Nautolan ผมเป็นลำหนวด พันธุ์เดียวกับ เจได Kit Fisto ในภาพยยนตร์ Episode 2-3) ปะทะกับกองทัพเผ่า Massassi -

ช่วงหลายศตวรรษก่อนหน้าที่จะเกิดสงคราม Great war มันเป็นช่วงเวลาอันสงบสุขของ republic ดาวหลายร้อยดวงเข้าร่วมกับ republic แต่สำหรับฝ่าย empire แล้ว มันเป็นช่วงเวลาของการเตรียมการเข้าสู่สงคราม เป็นช่วงเวลาที่เหล่า sith แสดงความสามัคคีและเสียสละอย่างน่าประหลาดใจ

Master Gnost-Dural คิดว่าในช่วงเวลานี้ เหล่า sith ได้แทรกซึมเข้ามาในวงการการเมืองของ republic หรือแม้กระทั่งใน jedi order เอง ซึ่งหลังจากไล่ดูประวัติต่างๆแล้วก็พบว่ามีเคสหนึ่งที่มีหลักฐานบ่งชี้อย่างหนักแน่น

Eison Gynt เป็นเจไดรุ่นที่ 4 ของตระกูล และเป็น padawan ที่มีอนาคตไกล จน master Barel Ovair ผู้สืบทอดตระกูลเจไดเช่นเดียวกันรับไว้เป็นศิษย์ ทั้งคู่เดินทางไปทั่วจักรวาล ศึกษาความลึกลับของ the force แม้กระทั่งเลือกทำภารกิจที่กล้าบ้าบิ่นชิ้นหนึ่ง

ทั้งคู่เดินทางไปที่ดาว yavin 4 เพื่อสำรวจวิหาร sith โบราณซึ่งเชื่อว่าเป็นสุสานของ sith lord Naga Sadow หนึ่งใน ancient sith lord ผู้ทรงอำนาจคนหนึ่ง เมื่อมาถึงดาว yavin 4 ทั้งคู่ต้องปะทะกับกองทัพ massassi warrior ของ Naga Sadow ที่เหลือรอดมาจากสงคราม Great hyperspace war ซึ่งเหล่า massassi ก็คือ sub specie หนึ่งของ sith และเป็นกองกำลังหลักของกองทัพ sith ในยุคโบราณ แต่กองทัพ massassi ที่อยู่บน yavin 4 ได้ถูก Naga Sadow ทดลองบางอย่าง และเปลี่ยนพวกนี้ให้กลายเป็นปีศาจที่มีพลัง force

- "Naga Sadow" ซิธในตำนาน (มีชีวิตประมาณ 4,400 ก่อนภาคภาพยนตร์) ผู้เปิดศึกสงคราม Great Hyperspace War ในอดีต -


- นักรบ "Massassi" -

Gynt กับ master Ovair ต้องถอยเข้าไปในวิหาร และเจอกับ Dark force ที่ยังคงสิงสถิตในวิหารนั้น

หลายสัปดาห์ต่อมา master Ovair กลับมาที่วิหารเจไดในสภาพเหมือนคนแทบจะเสียสติ จากการที่ต้องทนกับการทรมานอย่างหนัก หลังจากพักรักษาตัวจนหายดี master Ovair ได้เล่าเหตุการณ์ที่เขาต้องเผชิญบน yavin 4 และการตายของ Gynt

หลายปีผ่านไป Eison Gynt ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งที่ดาว coruscant สวมชุดเกราะของ massassi และพุ่งตรงไปหา master Ovair เพื่อที่จะสังหารเขา ทั้งคู่ต่อสู้กันอย่างดุเดือดท่ามกลางสายตาของชาว coruscant

ร่างของ Gynt ที่ถูกสิงโดยวิญญาณของ Naga Sadow มีพลังมหาศาล แต่ก็ถูก master Ovair สังหารลงได้ ชัยชนะเหนือพลังด้านมืดของ master Ovair ได้รับการสรรเสริญ แต่ไม่มีใครสงสัยเลยว่า ทำไมวิญญาณของ Naga Sadow จึงมุ่งที่จะสังหาร master Ovair เพียงคนเดียว

คำตอบเหล่านี้กระจ่างชัดขึ้นเมื่อ master Gnost-Dural ค้นข้อมูลสายตระกูลของ master Ovair แล้วพบว่า พ่อ และปู่ของเขาก็เคยเดินทางไปตามสุสานของเหล่า sith lord ในอดีตเหมือนกัน พวกเขาล้วนเป็นหน่วยแทรกซึมของฝ่าย empire

- สุสานซิธลอร์ดบนดาว Yavin 4 / แท้จริง Ovair คือพวกซิธ ! แทรกซึม -

ภารกิจของ master Ovair บนดาว Yavin 4 นั้นไม่ใช่ทำเพื่อ jedi order แต่ทำเพื่อเจ้านายที่แท้จริงของเขาคือ sith emperor เพราะ sith emperor รู้ว่าเหล่าวิญญาณของ sith lord ดั้งเดิมในอดีต (อันมักเป็นซิธที่มีสายเลือดสปีชีส์ซิธแท้ดั้งเดิมผสมด้วย แต่ซิธยุคหลังมักจะเป็นสปีชีส์มนุษย์อันเป็นสายเจไดด้านมืดขึ้นมาเป็นผู้นำ แต่ก็เรียกว่าซิธด้วยเช่นกัน จึงอาจมีความขัดแย้งในเชิงสายเลือด และอุดมการณ์อำนาจซิธรุ่นเก่า กับรุ่นใหม่อยู่ลึกๆด้วย อย่าง Naga Sadow เป็นซิธลูกครึ่งสปีชีส์มนุษย์-ซิธ) จึงอาจจะเป็นหอกข้างแคร่ของเขาในยามที่เขาบุกถล่ม republic ได้ ภารกิจของ master Ovair จึงเป็นการชิงโจมตีก่อนเพื่อปิดผนึกสุสานของ Naga Sadow และเพื่อการันตีว่าในยามที่ empire เปิดศึกกับ republic ศัตรูของ sith emperor จะมีเพียงแค่ republic และ jedi order เท่านั้น

น่าเสียดายที่ master Gnost-Dural มาสืบรู้เอาก็หลายร้อยปีหลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้น แต่มันก็ทำให้เกิดคำถามตามมาอีกว่า ยังมีภารกิจอื่นๆของครอบครัว master Ovair มีส่วนร่วมอีก โดยจะอธิบายขยายความในตอนต่อๆไปเช่นเคย

** SPOILER ALERT **
หากใครที่คิดว่ากำลังจะเล่นเกม Star wars Knights of the old republic ทั้งสองภาค แนะนำให้ข้ามตอนนี้ไปเลยครับ

* ตอนที่ 7 เล่าถึงแผนการเตรียมการก่อนเปิดฉากสงครามของฝ่าย empire ในตอนที่ 8 จะเล่าถึงอีกหนึ่งแผนเตรียมการของ sith emperor และสอง sith lord นามกระฉ่อน *

รูปซ้าย Sith emperor ลึกลับผู้วางชักใยแผนการทั้งหมด / รูปขวา Darth Revan และ Darth Malak

จากเหตุการณ์ที่มีหน่วยแทรกซึมของ empire เข้ามาในวงการต่างๆของ republic ทำให้เรารู้ว่า แผนการเตรียมการก่อนเปิดศึกของ empire อาจย้อนไปถึงช่วงสงคราม Jedi civil war ซึ่งสงครามครั้งนี้อาจจะมีจุดกำเนิดไม่ใช่ในแบบนี้เราเคยคิดว่าเป็นกัน

ตัวแทนของ sith emperor สองคนแรกที่ถูกส่งมาทำภารกิจนี้คือ sith lord นามกระฉ่อน Darth Revan และ Darth Malak

Revan ถูกจดจำในฐานะวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของ Jedi order ภายหลังจากที่เขากลับตัวมาสู่ light side อีกครั้ง แต่ในช่วงสงคราม Mandalorian war ที่เกิด
ก่อนหน้านั้น Revan และ Malak ได้ฝ่าฝืนคำสั่งของสภาเจไดที่ห้ามเข้าร่วมสงคราม ทั้งคู่รวบรวมกลุ่มเจไดออกสู้รบและสามรถพลิกสถานการณ์ของ republic ที่กำลังเพลี่ยงพล้ำให้กลับมาชนะได้ และทำลายดาว Malachor V ได้สำเร็จก่อนที่จะไล่ติดตามกองทัพ mandalorian ที่ยังหลงเหลืออยู่เข้าไปในเขต deep space

…ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาทั้งคู่กำลังเดินถลำลึกสู่หนทางแห่งด้านมืดเข้าไปเรื่อยๆ

ณ ดาว Dormund Kaas เองที่ Revan และ Malak ได้เจอกับศัตรูที่แท้จริง – จักรวรรดิ sith ที่ถือกำเนิดขึ้นใหม่ –

เราไม่รู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อ Revan และ Malak เผชิญหน้ากับ sith emperor แต่เรารู้ว่าเมื่อพวกเขากลับออกมา พวกเขาได้เข้าสู่ด้านมืดและรับใช้ sith emperor อย่างเต็มตัว

Sith emperor ส่งพวกเขากลับมาเพื่อเตรียมการก่อนเปิดศึกกับ republic ภารกิจของพวกเขาก็คือค้นหาแผนที่ที่จะพาไปยัง Starforge ที่ถูกสร้างขึ้นโดยชาว Rakata เมื่อ 25000 ปีก่อน และด้วยเจ้า Starforge นี้เองที่จะช่วยให้การสร้างขุมกำลังกองทัพ empire รวดเร็วขึ้นมากกว่าเดิมหลายร้อยปีจากที่คาดไว้

เมื่อ Revan และ Malak ค่อยๆเข้าใกล้ความสำเร็จในการค้นหา Starforge ความคิดในการสร้างจักรวรรดิของพวกเขาเองก็เริ่มครอบงำพวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ แต่เป็นโชคดีของฝ่าย republic ที่ความกระหายอำนาจของ Malak ได้ช่วย republic เอาไว้โดยการทรยศต่อ Revan และยิงทำลายยานรบของ Revan

หน่วยจู่โจมของเจไดพบ Revan บาดเจ็บและไม่ได้สติ หลังจากถกเถียงกันอย่างยาวนาน สภาเจไดก็ตัดสินใจให้ลบความทรงจำของ Revan และฝึกเขาใหม่ในฐานะเจได

Revan และ master Bastila Shan ร่วมกันกำจัด Darth Malak และช่วยฝ่าย republic เอาไว้ได้

- Revan และ เจไดหญิง Bastila Shan ร่วมกันกำจัด Darth Malak -

Starforge ถูกทำลาย สงคราม Jedi civil war จบลง Revan ไม่เพียงไถ่โทษในสิ่งที่เขากระทำไว้ก่อนหน้านี้เท่านั้น เขายังได้รับการสรรเสริญให้เป็นวีรบุรุษแห่ง republic อีกด้วย แต่เศษเสี้ยวความทรงจำของ Darth Revan ที่ยังเหลือนั้นยังคงเก็บงำความลับที่น่าสะพรึงกลัวเสียยิ่งกว่า Darth Malak

หลังจากสงคราม Jedi civil war จบลง Revan เดินทางเข้าไปในเขต deep space เพื่อความหาความทรงจำที่หายไปของเขา...ก่อนที่จะหายตัวไป ไม่มีใครทราบชะตากรรมของเขาอีกเลย

ถึงแม้ว่าจุดจบของ Revan ยังคงเป็นปริศนา แต่เราก็ได้เรียนรู้อีกเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้พวกเขาทั้งสองเข้าสู่ด้านมืด...สงคราม Mandalorian war ในตอนต่อไป

** ตามเนื้อเรื่องที่ได้รับการยอมรับเป็น official นั้น Revan เป็นเพศชาย ส่วน Jedi Exiled ตัวเอกจากภาค 2 เป็นเพศหญิงชื่อ Meetra Surik **

** Revan และ Bastila เป็นคู่รักกัน มีลูกหลานสืบเชื้อสายมาเป็น Grand master Satele Shan ในเกม The Old republic ** ทั้ง Bastila และ Satele ใช้คนพากย์เสียงคนเดียวกันคือ Jennifer Hale ผู้ที่ให้เสียง commander Shepard เพศหญิงใน Mass Effect ทั้งสามภาค**

- Satele Shan เจไดหญิงคนสำคัญในยุค Old Republic ทายาทของ Revan และ Bastila -

** Darth Traya หนึ่งในอาจารย์ของ Revan เคยบอกไว้ว่า Darth Revan จริงๆแล้วไม่ได้คิดที่จะทำลาย republic ในสงคราม jedi civil war แต่เขาต้องการที่จะรวมศูนย์อำนาจและกำลังทหารเพื่อใช้ในการต้านทาน sith empire ที่กำลังเตรียมจะเปิดศึกในอีกหลายร้อยปีต่อมา **

** หลังสงคราม jedi civil war และเหตุการณ์ first jedi purge Revan และ Meetra Surik เดินทางเข้าไปในดินแดนของ empire เพื่อที่จะเผชิญหน้ากับ sith emperor แต่สุดท้ายแผนการล้มเหลว Meetra ถูกฆ่าตาย และ Revan ถูกจองจำโดยมีวิญญาณของ Meetra คอยเฝ้าอยู่ไม่ห่างและถูกอำนาจจิต sit emperor ล้วงข้อมูลเกี่ยวกับ republic เพื่อใช้ในการวางแผนรบ ทำให้แผนการของ sith emperor ประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม แต่ Revan ก็พยายามต่อสู้กับอำนาจจิตของ emperor และพยายามโน้มน้าวจิตใจของ emperor ได้สำเร็จจนเกิดเป็น treaty of coruscant สัญญาสงบศึกของฝ่าย empire ที่สร้างความประหลาดให้แก่ republic อย่างมากเพราะพวกเขากำลังจะพ่ายศึกอยู่แล้ว และสุดท้าย Revan ก็ถูกปลดปล่อยโดยหน่วยจู่โจมของเจได **

* ตอนที่ 8 เล่าถึงสงคราม Jedi civil war ที่ทำให้ Revan ได้ไถ่บาปของตนในตอนที่ยังเป็น sith lord ตอนที่ 9 จะเล่าถึงสงครามที่ทำให้ Revan และ Malak เข้าสู่ด้านมืด *

- นักรบ Madalorian -

Revan และ Malak ไม่ได้เข้าสู่ด้านมืดในทันทีทันใด พวกเขาค่อยๆถลำลึกลงเรื่อยๆหลังจากการฝ่าฝืนคำสั่งห้ามร่วมรบของสภาเจไดและเข้าร่วมสงคราม Mandalorian wars ทั้งๆที่ตอนแรกพวกเขาทั้งสองคนมีความคิดที่จะช่วยเหลือ republic ที่กำลังเพลี่ยงพล้ำเท่านั้น

ในบรรดาสงครามที่ republic เคยเจอในช่วงเวลานั้น สงคราม Mandalorian wars เป็นสงครามที่นองเลือดที่สุด ด้วยความทะเยอทะยานของ Manadalore the ultimate ที่ต้องการสร้างกองทัพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาล เพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น Mandalore จำเป็นต้องกำจัด rebpulic และเจไดซะ

หลังจากรวบรวม clan ต่างๆของ mandalorian ได้ พวกเขาก็เปิดฉากโจมตีดาวพันธมิตรของ republic ในเขต outer rim ชาว mandalorian เปิดศึกกับ republic หลายแนวรบ แต่กองทัพของ republic ยังไม่ได้เคลื่อนพลเข้ารบเต็มอัตราจนกระทั่งดาว Taris ถูกโจมตี ณ ดาวนั้นเองที่ republic มีชัยชนะในสงครามครั้งแรก และก่อกำเนิดวีรบุรุษนักรบหลายคน หนึ่งในนั้นผู้มีบทบาทเป็นที่ชื่นชมกล่าวขวัญก็คือ Carth Onasi

- วีรบุรุษ "Carth Onasi" ปะทะ mandalorian -

…แต่ศัตรูที่พวกเขาพบเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น

Mandalore เคลื่อนพลเต็มอัตราศึกเข้ารบกับ republic ทำลายแนวตั้งรับและบุกตะลุยตั้งแต่ outer rim ไปจนถึง mid rim

ในขณะที่ republic กำลังถึงจุดตกอับ กลุ่มเจไดของ Revan และ Malak ที่ฝ่าฝืนคำสั่งของสภาก็เข้ามาร่วมรบและพลิกสถานการณ์จนสามารถบุกกลับจนถึงดาว Malachor V และในศึกครั้งสุดท้าย Revan สามารถสังหาร Mandalore ลงได้ แล้วทำการเดินเครื่อง Mass shadow generator เพื่อทำลายดาว Malachor V ลงไปพร้อมๆกับกองทัพ republic และเจไดอีกจำนวนมาก

หลังสงครามจบลงทหารผ่านศึกได้เดินทางกลับบ้าน ส่วน Revan และ Malak ไล่ติดตามกองทัพ mandalorian ที่เหลือเข้าไปในเขต deep space จนกระทั่งพบกับ sith emperor ที่ดาว Dormund Kaas และ ณ ที่นั้นเอง Revan และ Malak ก็เข้าสู่ด้านมืดอย่างเต็มตัว กลายเป็นเบี้ยตัวหนึ่งของ sith emperor

ไม่มีใครรู้เลยว่า sith emperor คอยชักใยอยู่เบื้องหลังสงครามครั้งนี้

จากการค้นคว้าของ master Gnost-Dural พบว่า ไม่ได้มีแค่ sith emperor เท่านั้นที่อยู่เบื้องหลังสงครามระหว่าง sith และ republic มีหลักฐานอีกชิ้นหนึ่งที่ชี้ให้เห็นเช่นนั้นก็คือ เรื่องราวของ Exar Kun ในตอนต่อไป

** ในศึกครั้งสุดท้ายที่ดาว Malachor V เจได Meetra Surik เป็นหนึ่งในนายพลของ Revan ที่ทำการเดินเครื่อง Mass shadow generator จนทำลายดาวและกองทัพไปพร้อมๆกัน ในตอนนั้นว่ากันว่าเกิด force echo ที่มีผลกระทบกับตัว Meetra จนไม่อาจจะต้านทานพลังนั้นได้ ทำให้เธอเลือกที่จะตัดขาดจาก the force และสูญเสียพลังเจไดไป หลังสงคราม Meetra มอบตัวกับสภาเจไดและถูกขับออกจาก jedi order จึงถูกขนานนามว่า Jedi exiled ในเกม Knights of the old republic ภาค 2 และเป็นเจไดไม่กี่คนที่เหลือรอดจากเหตุการณ์ first jedi purge**

* ตอนที่ 9 เล่าถึงเหตุการณ์ที่ทำให้ Revan และ Malak เข้าสู่ด้านมืดโดยมี sith emperor อยู่เบื้องหลัง ในตอนที่ 10 จะเล่าถึงสงครามที่ sith lord อีกกลุ่มอยู่เบื้องหลังเช่นกัน *

- Exar Kun ปะทะ กองทัพ Massassi -

Exar Kun ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆกับ sith empire ที่ซ่อนตัวอยู่ในเขต deep space แต่การเข้าสู่ด้านมืดของเขาก็มีส่วนในการทำให้เกิดสงคราม Mandalorian wars ที่ทำให้ Revan และ Malak เข้าสู่ด้านมืด

ในวัยหนุ่ม Exar Kun มี force ที่เข้มแข็ง และฝีมือเพลงดาบไลซ์เซเบอร์ที่หาคนเปรียบได้ยากจากการฝึกฝนอันยาวนาน เขาลุ่มหลงอยู่กับการค้นหาความรู้เกี่ยวกับ force และเพิกเฉยต่อคำเตือนของเหล่าอาจารย์ที่กังวลว่าความกระหายความรู้ของเขา จะนำเขาไปสู่ความกระหายอยากในอำนาจ แต่ Exar Kun เชื่อว่าตัวเขาสามารถทนต่อแรงเย้ายวนของด้านมืดได้

...แต่ Exar Kun ถลำลึกลงสู่ด้านมืดจนไม่มีใครช่วยเหลือเขาได้อีกแล้ว

Exar Kun เดินทางไปยังดาว Onderon ที่นั่นเองเขาได้เผชิญหน้ากับ sith lord Freedon Nadd วิญญาณของ Nadd ได้ชี้นำ Exar Kun ไปที่สุสานของ sith lord บนดาว korriban ที่ซึ่งเขาสามารถพบกับความลับที่เขาต้องการจะเรียนรู้ และได้เผชิญการทดสอบจากเหล่าวิญญาณ sith lord ที่อยู่ในสุสานนั้น

- Exar Kun กับวิญญาณ Freedon Nadd -

เมื่อเขากลับออกมา...Exar Kun ก็ไม่สามารถกลับสู่ด้านสว่างอีกต่อไป

Exar Kun เดินทางไปยังดาว yavin 4 เฉกเช่นเดียวกับผู้ที่มาก่อนและมาหลังจากเขา Kun ต้องเผชิญหน้ากับกองทัพ massassi ของ Naga Sadow เขาถูกจับและกำลังจะถูกบูชายัญให้กับ sith worm ในตอนนั้นเองเขาเข้าสู่ด้านมืดอย่างเต็มตัวและสังหาร sith worm ลงได้ หลังจากนั้นเขาได้เกณฑ์เหล่า massassi และค้นพบซากยานของ Naga Sadow ที่ถูกทิ้งไว้ตั้งแต่สงคราม hyperspace war

…การครอบครองแค่ดาว yavin 4 คงไม่เพียงพอสำหรับ Exar Kun

เพื่อที่จะตั้งตัวเป็น dark lord of the sith เขาได้นำกองทัพเข้าโจมตี Krath cult ที่เขต Empress teta system เขาได้เผชิญหน้ากับเจไดผู้เข้าสู่ด้านมืดและเข้มแข็งไม่แพ้เขา – Ulic Qel-Droma ผู้เข้าสู่ด้านมืดหลังจากภารกิจแทรกซึมและทำลาย Krath cult ล้มเหลว – หลังจากต่อสู่กันอย่างยาวนาน ทั้งคู่ก็ร่วมมือกัน โดยมี Exar Kun เป็น dark lord of the sith และ Qel-Droma เป็นศิษย์ของเขา

- Exar Kun ปะทะ Ulic Qel-Droma -

กองทัพของทั้งคู่รวมตัวกันเป็น brotherhood of the sith และเปิดศึกกับ republic กับเหล่าเจได

หลังจากชัยชนะในหลายสมรภูมิ กองทัพ sith ได้เข้าโจมตีหอสมุดของเจไดที่ดาว Ossis ที่นั่นเอง Qel-Droma ได้สังหารน้องชายของตนเอง ดาว Ossus ถูกทำลาย เหล่า sith ได้รับชัยชนะ แต่ก็เป็นชัยชนะที่แสนสั้น

ด้วยความเสียใจที่สังหารน้องชายตนเอง Qel-Droma ละทิ้งด้านมืดและทรยศต่อ Exar Kun

กองทัพ republic ไล่ต้อน Exar Kun กลับไปที่ดาว yavin 4 ที่ซึ่งเขาสังเวยกองทัพของเขาเพื่อให้วิญญาณของตนคงอยู่ตลอดไป เหล่าเจไดเมื่อไม่สามารถทำลาย Exar Kun ได้ จึงได้ทำการกักขังวิญญาณของเขาไว้บนดาว yavin 4 และเท่าที่รู้วิญญาณนั้นยังคงอยู่จนทุกวันนี้

เราสามารถเรียนรู้จากเรื่องราวของ Exar Kun ว่า ข้อแรก Exar Kun ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆกับ sith emperor ที่ดาว Dormund Kaas และข้อสองคือ เหล่าวิญญาณของ sith lord ในอดีตก็ไม่เคยสนับสนุนและยังคงไม่สนับสนุน sith emperor จนถึงทุกวันนี้

เรามีข้อมูลน้อยมากเกี่ยวกับ sith emperor และความพยายามของเขาในการสร้างจักรวรรดิขึ้นมาใหม่ เราจะมีเรียนรู้เรื่องนี้กันในตอนต่อไป

* จากเหตุที่ sith lord ในอดีตไม่ได้สนับสนุน sith emperor คนปัจจุบัน ทำให้ emperor ต้องจัดการกับวิญญาณของ sith lord ในอดีตซะ เช่นเดียวกันกับที่เกิดขึ้นในเคสของ master Ovair *

* ตอนที่ 10 เล่าถึงความพยายามในการบ่อนทำลาย republic ของเหล่า sith ในตอนที่ 11 จะเล่าถึงความอุตสาหะในการก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาใหม่จากเศษซากที่เหลืออยู่ของ sith empire*

- * สปีชี่ส์ ซิธ พันธุ์แท้ หรือ "Sith Pureblood มีผิวสีแดง โดยไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้พลังด้านมืดแบบนิกายซิธเลยในประวัติศาสตร์ช่วงเริ่มแรก แต่ภายหลังก็มีซิธสปีชี่ย์แท้ๆบางคนได้ฝึกพลังในวิถีนิกายซิธด้วยเช่นกัน / รูปขวาสุด สงคราม hyperspace war บนดาว korriban บ้านเกิดของเผ่าซิธ ถูกกวาดล้างโดยฝ่ายสาธารณรัฐ-เจได นั่นเอง -

เป็นเวลากว่าพันปีที่ sith empire ซึ่งกำเนิดใหม่อีกครั้ง เติบโตขึ้นโดยที่ไม่มีใครรู้ พวกเราเจไดเชื่อกันว่า sith นั้นสูญสิ้นไปหมดแล้ว เหล่า sith lord ที่รบกับ republic อยู่ในตอนนั้นเป็นเพียงเจไดที่เข้าสู่ด้านมิด ไม่ใช่ sith ที่แท้จริง (*เสริมเพิ่มเติมตำนานประวัติศาสตร์ซิธ (และเจได) คลิกที่นี่ )

- สุสานซิธโบราณ / Master Gnost-Dural ครั้งหนึ่งได้เคยปะทะกับพวกซิธ ที่เป็น Sith Pureblood -

เหล่า sith ที่แท้จริงคือลูกหลานของชนเผ่าผิวแดงบนดาว korriban …sith ที่พันธุ์แท้จริงสูญสิ้นไปหมดแล้ว ยกเว้นพวกที่สามารถหนีรอดจากสงคราม hyperspace war ไปได้เมื่อ 900 ปีก่อน

การกลับมาอีกครั้งของ sith empire ก็ด้วยความอัจฉิรยะของ sith emperor แต่ความอุตสาหะของประชาชนชาว empire ก็ควรค่าแก่การยกย่องเช่นเดียวกัน ในข้อมูลเกี่ยวกับ sith empire ที่มีอยู่น้อยนิด มีชื่อหนึ่งโดดเด่นขึ้นมา – Grand Moff Odile Vaikan ผู้ก่อตั้งกองทหาร empire ยุคใหม่ – Vaikan คือหนึ่งในผู้รอดชีวิตจากสงคราม hyperspace war ที่สามารถหนีรอดจากการทำลายล้างบนดาว korriban มาได้ในช่วงสุดท้ายของสงคราม เพื่อที่จะหลบหนีศัตรู กองยานของ sith emperor ได้เสี่ยงดวง jump เข้าสู่บริเวณที่ไม่ปรากฏบนแผนที่

- Grand Moff Odile Vaikan ผู้ก่อตั้งกองทหาร empire ยุคใหม่ -

กองยานเดินทางร่อนเร่อยู่หลายปี ในช่วงนี้เวลานี้ Vaikan ได้เรียนรู้การนำร่องและกลายเป็นนักบินที่เป็นที่เคารพของกอยาน และในที่สุดท้ายกองยานก็เดินทางมาถึงดาว Dormund Kass ที่นั่นเอง sith emperor ได้เปิดเผยแผนการของเขา เขาให้สัญญาว่าจะล้างแค้น จะสร้างจักรวรรดิที่จะครอบครองจักรวาล จะสร้างจักรวรรดิที่จะทำลายล้าง republic ให้สิ้นซาก

Sith emperor ได้มอบหน้าที่การดำเนินแผนการของเขาให้กับ dark council และผู้นำที่จงรักภักดีเฉกเช่น Odile Vaikan หลังจากนั้นตัว sith emperor เองก็เก็บตัวเงียบนับจากนั้น

ในขณะที่ Dark council หารือกันเรื่องแผนระยะยาวและโครงสร้างอำนาจของเหล่า sith ...ตัว Vaikan ก็รับหน้าที่อันยิ่งใหญ่ในการจัดตั้งระเบียบใหม่ เขาได้รวบรวมผู้ที่ไม่มีพลัง force ให้รวมกันเป็นกองทัพ empire รุ่นใหม่ อีกทั้งยังพัฒนาระบบการฝึกทหารที่ยังคงใช้อยู่ในกองทัพ empire จนถึงปัจจุบัน

ด้วยกองทัพที่ถูกฝึกมาอย่างดี Vaikan ได้รุกคืบเข้าสู่ป่าทึบแห่ง Dormund Kaas เพื่อขยายพื้นที่ให้กับเมืองหลวงใหม่ที่กำลังสร้างขึ้น ในระหว่างการรบนั้นเอง Vaikan ได้สังหารตัว Terentatek ในพื้นที่ทีต่อมาเป็นที่ตั้งของ imperial citadel ในปัจจุบัน

หลังจากยึดครอง Dormund Kaas ได้เบ็ดเสร็จ Vaikan ได้หันมาสร้างกองยานให้กับ empire โดยแบ่งหน้าที่กองทหารเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนวิศวกรรม การทำเหมือง และฝ่ายผลิต เขาได้วางรากฐานให้กับแผนการอันยิ่งใหญ่ในการสร้างกองยาน empire

...จากการคาดคะเนของตัวเขาเอง Vakan อาจจะไม่มีโอกาสได้ความสำเร็จเห็นแม้เพียงเศษเสี้ยวของแผนการในช่วงชีวิตของเขา แต่ถึงอย่างไร เขาก็ได้รับการสนับสนุนจาก dark council และดำเนินการตามแผน ด้วยเหตุนี้เองทำให้ Vaikan ได้รับการแต่งตั้งเป็น Grand Moff คนแรกของ sith empire

Grand Moff Vaikan ถูกสังหารในระหว่างการรบเพื่อขยายดินแดน – เป็นความตายอันคู่ควรยิ่งกับตำแหน่ง Grand Moff

ถึงแม้ตัว Vaikan จะเสียชีวิตไปนานหลายร้อยปีแล้ว แต่แผนการของเขายังคงอยู่ และสร้างแรงบันดาลให้กับทหาร empire ในสมัยต่อมาที่ออกรบภายใต้ธงแห่ง sith empire

Master Gnost-Dural เชื่อว่า สาเหตุแห่งความจงรักภักดีของ Vaikan นั้นน่าจะมาจากเหตุการณ์ในสงคราม hyperspace war โดยจะอธิบายในตอนต่อไป

* ตอนที่ 11 เล่าถึงความอุตสาหะในการสร้างจักรวรรดิใหม่ของ sith ในตอนที่ 12 จะเล่าถึงแรงผลักดัน ความเคียดแค้นที่มีต่อ republic ของฝ่าย sith ที่ทำให้เป็นต้นกำเนิดของจักรวรรดิใหม่ *

- "Great Hyperspace War" , Jedi-Galactic Republic ปะทะ The Sith Empire ในประวัติศาสตร์ยุคอดีตอันไกลโพ้น -

ในบรรดาภัยคุกคามที่มีต่อ republic สงคราม great hyperspace war ดูจะโดดเด่นที่สุดในบรรดาสงครามอื่นๆ แม้กระทั่งสงครามกับ sith empire ที่เราเชื่อกันว่าถูกทำลายจนหมดสิ้นแล้วก็มีต้นเหตุมาจากความขัดแย้งครั้งนี้เช่นกัน
มีหลายปัจจัยที่มีส่วนส่งเสริมให้เกิดสงครามในยุคต่อๆมา แต่ปัจจัยที่สำคัญที่สุดน่าจะมาจากการศึกช่วงสุดท้ายในสงคราม hyperspace war

สงคราม hyperspace war เริ่มขึ้นในยุคที่ republic สงบสุขมานับพันปี ในขณะเดียวกัน sith empire ในยุคแรกก็เริ่มเข้มแข็งขึ้นแลละพิชิตระบบดาวมากมายใกล้ๆกับดาว korriban บ้านเกิดของพวกเขา และหาโอกาสที่จะขยายดินแดนอยู่ทุกเมื่อ โดยที่ republic ไม่เคยรู้ถึงการมีอยู่ของ sith empire เลย
ในช่วงเวลานั้น มีการต่อสู้แย่งชิงอำนาจกันเองระหว่างผู้นำ sith และหนึ่งผู้ชนะขึ้นเป็นผู้นำ sith empire ต่อมาก็คือ Naga Sadow

- การชิงตำแหน่ง Dark Lord กันเอง ระว่าง "Naga Sadow" (สวมหมวกทรงกระบอกแบน) ดวลกับ "Ludo Kressh" และผู้ชนะคือ Naga Sadow ...ทำการสร้างกองทัพ เปิดศึกกับ Republic ในเวลาต่อมา -

ไม่ว่าจะเป็นเพราะโอกาสหรือเพราะโชคชะตา นักสำรวจชาว republic สองคนหลงมาที่ดาว korriban

นักสำรวจทั้งคู่ถูกจับในฐานะสายลับ แต่ Naga Sadow ก็ได้จัดฉากการจู่โจมเพื่อปลดปล่อยนักโทษทั้งสอง โดยทิ้งหลักฐานว่าเป็นฝีมือของฝ่าย republic และกระพือข่าวเกี่ยวกับการที่ republic จะทำการโจมตี ทำให้ Naga Sadow สามารถรวบรวมผู้คนให้เข้าร่วมการโจมตี republic – เป็นการชิงโจมตีก่อน

ด้วยความกระหายสงคราม เหล่าผู้คนยอมรับ Naga Sadow ให้เป็นผู้นำ และเขาก็ได้เริ่มการโจมตี republic

กองทัพ sith เปิดฉากโจมตีจากหลายแนวรบ รวมทั้งดาว coruscant ด้วย โดยมี Naga Sadow บัญชาการการรบอยู่ใน mediatation sphere ที่ลอยอยู่เหนือดาวฤกษ์ขนาดยักษ์ การโจมตีในช่วงแรกทำให้ฝ่าย republic ที่ไม่ได้เตีรยมการทำสงครามมาถอยร่น ชัยชนะของฝ่าย sith อยู่แค่เอื้อม แต่เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้วบ่อยครั้ง – ด้านมืดมักจะแว้งกัดกันเองในที่สุด --

- นักสำรวจจาก republic สองคนพี่น้อง Gav Daragon (ชาย) และ Jori Daragon (หญิง) หลงมาที่ดาว korriban ... ถูก Naga Sadow ใช้เป็นเงื่อนไขทำสงครามโจมตี republic -

Naga Sadow ถูกทรยศโดยลูกศิษย์ของเขา...

ถึงแม้ว่าศิษย์ของ Naga Sadow จะพ่ายแพ้ต่อ Naga Sadow แต่การโจมตีนั้นก็ทำให้ mediatation sphere ของ Naga Sadow เสียหาย และสงครามเริ่มเปลี่ยนทิศ

กองทัพ sith เริ่มพ่ายแพ้เพราะขาดผู้นำทัพ และกองทัพ republic ก็รุกไล่มาจนถึง meditation sphere ในที่สุด Naga Sadow รู้ตัวแล้วว่าต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน เขาได้ทิ้งกองทัพของเขาไปที่ดาว korriban เพื่อที่จะพบว่ามีผู้ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อเขาเพิ่มขึ้นอีก...และสงครามกลางเมืองของเหล่า sith ก็ปะทุขึ้น

Naga Sadow สามารถเอาชนะสงครามกลางเมืองมาได้ แต่ก็ไม่เหลือกองทัพไว้ป้องกัน korriban อีกต่อไป ในช่วงที่ republic กวาดล้างกองกำลังที่เหลือ Naga Sadow ได้หลบหนีไปยังดาว yavin 4 และไม่ได้กลับมาอีกเลย

- Naga Sadow บัญชาการการรบใน mediatation sphere -

ในช่วงสุดท้ายของสงคราม เป็นช่วงที่ master Gnost-Duaral คิดว่าฝ่าย republic ได้ทำพลาดไป เพราะ sith ถูกทำลายจนไม่เป็นพิษภัยกับ republic อีกแล้ว สมุหนายกก็ยังไม่พอใจ ท้ายที่สุดกองทัพ republic และเจไดก็ถูกส่งไปที่ korriban และดาวอื่นๆของ sith เพื่อทำลายล้างทุกอย่างให่สิ้นซาก

มันเป็นการภารกิจที่ทำให้ผู้รอดชีวิตส่วนหนึ่งหนีเข้าไปในเขต deep space พร้อมกับ sith lord คนหนึ่งซึ่งจะขึ้นมาแทน Naga Sadow ...sith lord คนเดียวกันกับที่พวกเราเรียกเขาว่า sith emperor ลึกลับ ในเกม Old Republic ปัจจุบัน

Master Gnost-Dural เชื่อว่าเพราะเหตุนี้เองทำให้ sith emperor ได้พาผู้คนของเขาหลบหนีออกมาและเริ่มก่อร่างสร้างจักรวรรดิใหม่ขึ้น และเป็นสาเหตุให้พวกเขากลับมาล้างแค้นในอีก 1300 ปีให้หลัง

อาจมีคนสงสัยว่าจะเป็นอย่างไรถ้า republic ไม่จบสงครามครั้งนั้นด้วยวิธีการดังกล่าว แต่เราต้องไม่ลืมว่าความขัดแย้งลึกๆในสงคราม hyperspace war และสงครามที่กำลังสู้อยู่ทุกวันนี้ มันมีต้นตอย้อนกลับไปได้ยาวนานเสียก่อนที่ sith empire ยุคแรกจะเกิดขึ้นมาเสียอีก – เหตุการณ์ที่มีเจไดมืดพวกแรกถูกขับไล่ออกมา เดินทางมาถึงดาว korriban และกลายเป็นผู้นำของ sith รวมถึงเหตุการณ์ force war ศึกครั้งแรกระหว่างด้านมืดและด้านสว่างบนดาว tython (*สำหรับรายละเอียดกรณี เจไดมืด และ force wars รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บทความประวัติศาสตร์ตำนาน เจได-ซิธ)